ออกมาให้อัพเกรดกันแล้ว สำหรับ NVDA 2019.3 ซึ่งในรุ่นนี้มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญมาก 2 อย่าง คือ การเปลี่ยนแกนกลางของ Python จากรุ่น 2 เป็น 3 ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย และการเขียนระบบ speech subsystem ของ NVDA ใหม่สำหรับนวัตกรรมอันน่าตื่นเต้นที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ซึ่งส่งผลให้ส่วนเสริมต่างๆ ต้องเปลี่ยนไปใช้ Python 3 ด้วย ส่วนส่วนเสริมที่ไม่มีการพัฒนาต่อก็จะใช้กับ NVDA รุ่นนี้ไม่ได้ ซึ่งผู้ใช้ควรระมัดระวังก่อนที่จะอัพเกรดมาใช้ NVDA 2019.3 และเราก็ได้เขียน คำแนะนำก่อนจะอัพเกรดมาใช้ NVDA 2019.3 ไว้ให้อ่านกันล่วงหน้าแล้ว นอกจากนั้นยังมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ และการแก้ไขบั๊กต่างๆ มากมาย เช่น การรองรับ Java VMs 64 bit เพิ่มฟีเจอร์ Screen Curtain และ Focus Highlight เป็นต้น จะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรที่สำคัญๆ บ้าง เราไปดูกันเลยครับ

ฟีเจอร์ใหม่

  • การใช้งานคำสั่ง mouse to navigator object ในโปรแกรมที่เขียนด้วยภาษา Java ได้รับการพัฒนาให้มีความแม่นยำมากขึ้น
  • ผู้ใช้สามารถ reset การตั้งค่าคำสั่งลัดของโปรแกรมและท่าทางการสั่งงานใน Input Gestures ให้เป็นค่าเริ่มต้นได้โดยกดปุ่ม Reset to factory defaults
  • คำสั่งรายงานรูปแบบตัวอักษรใน Microsoft Word สามารถรายงานตัวอักษรที่ถูกกำหนดให้ซ่อนไว้ได้ด้วย
  • ผู้ใช้สามารถกดคำสั่ง NVDA+shift+F9 เพื่อไปยังตำแหน่งเริ่มต้นของการเริ่มคัดลอกแถบทบทวนได้
  • ใน Internet Explorer Microsoft Edge และ Firefox รุ่นล่าสุด NVDA จะสามารถอ่าน landmark ในขณะที่ผู้ใช้อยู่ในโฟกัสโหมดหรือใช้วัตถุนำร่องได้
  • ใน Internet Explorer Google Chrome และ Mozilla Firefox ผู้ใช้จะสามารถใช้การสำรวจโดยใช้ตัวอักษรเพื่อไปยัง article และ grouping ในเบราส์โหมดได้ โดยคำสั่งดังกล่าวยังไม่ได้ถูกกำหนดมาเป็นค่าเริ่มต้น ผู้ใช้สามารถตั้งค่าได้เองใน Input Gestures ในขณะที่ผู้ใช้อยู่ในเบราส์โหมด
  • ผู้ใช้สามารถใช้คำสั่ง o ในเบราส์โหมดเพื่ออ่าน figures บนหน้าเว็บได้
  • ใน Internet Explorer Google Chrome และ Mozilla Firefox NVDA จะสามารถอ่านองค์ประกอบ article ในขณะที่ผู้ใช้กำลังใช้วัตถุนำร่องได้ ถ้าผู้ใช้เปิดใช้ในการตั้งค่าการจัดรูปแบบเอกสาร
  • เพิ่มฟีเจอร์ screen curtain ซึ่งเมื่อเปิดใช้จะทำให้หน้าจอคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 8 ขึ้นไป เป็นสีดำทั้งหมด โดยผู้ใช้สามารถเปิดใช้ได้ในหมวดการมองเห็นของการตั้งค่า NVDA หรือกำหนดคำสั่งลัดเพื่อเปิดฟีเจอร์นี้ใน Input Gestures (กด 1 ครั้ง เพื่อเปิดใช้แบบชั่วคราวจนกว่าจะมีการ restart NVDA หรือกด 2 ครั้ง เพื่อเปิดใช้เสมอเมื่อใช้งาน NVDA)
  • เพิ่มฟีเจอร์ screen highlight ซึ่งเมื่อเปิดใช้จะมีการระบุตำแหน่งของ system focus วัตถุนำร่อง และตำแหน่งของเคอร์เซอร์ในเบราส์โหมดบนหน้าจอ ผู้ใช้สามารถเปิดใช้ได้ในหมวดการมองเห็นของการตั้งค่า NVDA

นอกจากการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ แล้ว ยังมีการเปลี่ยนแปลงใน NVDA 2019.3 ดังนี้

  • เพิ่มคำอธิบายการใช้งาน NVDA บน Windows Console ในคู่มือการใช้งานสำหรับผู้ใช้
  • บน Windows 8 หรือใหม่กว่า NVDA สามารถอ่านชื่อและรุ่นของแอพฯ เช่น แอพฯ ที่โหลดมาจาก Microsoft Store
  • เมื่อผู้ใช้ใช้คำสั่งลัดเพื่อเปิดหรือปิดการใช้งาน track changes ใน Microsoft Word NVDA สามารถอ่านสถานะของการตั้งค่าดังกล่าวให้ผู้ใช้ฟังได้แล้ว
  • ใน Microsoft Word เมื่อผู้ใช้กดคำสั่งลัด CTRL+shift+8 เพื่อซ่อนหรือแสดง non printable characters NVDA สามารถอ่านสถานะของการตั้งค่าดังกล่าวให้ผู้ใช้ฟังได้แล้ว
  • เมื่อมีการเปิดใช้งานการอ่านอักขระ CLDR (รวมถึง emoji) NVDA จะอ่านอักขระเหล่านั้นเมื่อผู้ใช้ตั้งค่า เครื่องหมายวรรคตอน / สัญลักษณ์ ในระดับ all
  • อัพเดตข้อมูล Unicode Common Locale Data Repository emoji annotations เป็นรุ่น 36.0
  • เมื่อผู้ใช้กำลังอยู่ใน grouping ในเบราส์โหมด NVDA จะอ่านคำอธิบายของ grouping เหล่านั้นด้วย
  • ผู้ใช้ NVDA สามารถเข้าถึงโปรแกรมที่เขียนด้วยภาษา Java รวมถึง Java VMs 64 bit ได้ทันที เนื่องจากมีการใส่ Java Access Bridge ไว้ใน NVDA แล้ว
  • ถ้าคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ไม่มีการเปิดใช้งาน Java Access Bridge ไว้ NVDA จะเปิดใช้งานให้โดยอัตโนมัติเมื่อผู้ใช้เปิด NVDA
  • อัพเดต eSpeak-NG เป็นรุ่น 1.51-dev, commit ca65812ac6019926f2fbd7f12c92d7edd3701e0c

การแก้ไขบั๊กต่างๆ ใน NVDA รุ่นนี้

  • บน Windows 10 ถ้าผู้ใช้เปิดใช้การอ่าน tooltips ในการตั้งค่าการแสดงวัตถุ NVDA สามารถอ่าน tooltips จาก Universal apps ได้แล้ว
  • NVDA สามารถอ่านคำสั่งในกล่องข้อความ compressor ของโปรแกรม Audacity ได้แล้ว
  • เมื่อผู้ใช้กำลังใช้การทบทวนข้อความในโปรแกรมจำพวก Scintilla based editors เช่น Notepad++ NVDA จะไม่กำหนดค่าให้ช่องเว้นวรรคเป็นคำแล้ว
  • NVDA สามารถอ่านคำแนะนำใน address bar ของ Microsoft Edge ได้แล้ว
  • ใน Internet Explorer NVDA สามารถอ่านชื่อของแถบได้แล้ว
  • ใน Microsoft Edge ซึ่งขับเคลื่อนด้วย EdgeHTML NVDA จะไม่เล่นเสียงแสดงคำแนะนำเมื่อผู้ใช้ Maximize หน้าต่างนั้น
  • ARIA 1.1 combo boxes are now supported in Mozilla Firefox and Google Chrome.
  • NVDA สามารถอ่านรายละเอียดของผลการค้นหา ใน Start menu บน Windows 10 Anniversary Update หรือใหม่กว่า ให้ผู้ใช้ฟังได้แล้ว
  • ถ้าผู้ใช้เลื่อนเคอร์เซอร์หรือใช้การสำรวจโดยใช้ตัวอักษรซึ่งทำให้เอกสารเปลี่ยนแปลงไปในเบราส์โหมด NVDA สามารถอ่านเนื้อหาของเอกสารได้อย่างถูกต้อง
  • มีการแก้ไขการอ่านชื่อของ bullet บางตัวใน Microsoft Word ให้ถูกต้อง
  • บน Windows 10 May 2019 Update เมื่อผู้ใช้เปิดใช้ emoji panel และ clipboard history NVDA สามารถอ่าน Emoji ตัวแรก และอ่านรายการแรกของ clipboard ที่ผู้ใช้เลือกได้แล้ว
  • ในโปรแกรม Poedit ผู้ใช้สามารถอ่านคำแปลของภาษาที่ใช้การเขียนจากขวาไปซ้ายได้
  • บน Windows 10 April 2018 Update หรือใหม่กว่า NVDA จะไม่อ่านรายละเอียดของ progress bar ที่ตัวปรับความดังเสียงซึ่งอยู่ในหน้า System/Sound แล้ว
  • คำหรือประโยคที่ไม่ถูกต้องใน speech dictionaries จะไม่ทำให้ NVDA หยุดอ่านข้อความอีกต่อไป
  • ผู้ใช้สามารถใช้โปรแกรมที่เขียนด้วยภาษา Java ซึ่งเปิดใช้งานก่อน NVDA ได้ทันทีโดยไม่ต้อง restart โปรแกรมเหล่านั้นใหม่อีกครั้ง
  • ใน Mozilla Firefox เมื่อผู้ใช้ทำเครื่องหมายในองค์ประกอบใดก็ตาม (เช่น check box radio button) NVDA จะไม่อ่านการทำเครื่องหมายดังกล่าวซ้ำๆ อีก
  • NVDA จะเห็นอักขระ unicode บางตัว เช่น e-acute เป็นอักขระตัวเดียวเมื่อผู้ใช้เลื่อนเพื่ออ่านข้อความ
  • เมื่อผู้ใช้กำหนดให้เสียงพูดของ NVDA ไปออกที่อุปกรณ์เสียงตัวใด เสียงอื่นๆ ที่ถูกเล่นโดย NVDA ก็จะถูกเล่นผ่านอุปกรณ์ตัวนั้นด้วย
  • มีการปรับปรุงให้การเลื่อนเคอร์เซอร์ในเบราส์โหมดของ Mozilla Firefox ตอบสนองการใช้งานของผู้ใช้ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

และก็เช่นเคย หากใครยังไม่ได้อัพเกรด ก็สามารถกด Check for Update ได้จาก NVDA menu -> Help -> หรือจะโหลดไฟล์ติดตั้งโดยตรงได้จากหน้า Download ของเว็บเราก็ได้

ป.ล. ขออภัยสำหรับคู่มือผู้ใช้ ที่ยังไม่ได้ปรับปรุงให้เป็นของ NVDA เวอร์ชันล่าสุด เราจะพยายามแก้ไขในเร็วๆ นี้