เนื่องจาก NVDA 2019.3 ได้อัพเกรดแกนกลางของ Python ซึ่งเป็นภาษาที่ใช้พัฒนาตัวโปรแกรม เป็นเวอร์ชัน 3.0 ดังนั้นคำสั่งที่ใช้กับการเขียนส่วนเสริมหลายตัวจึงต้องมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง ทำให้ผลกระทบที่ชัดเจนที่สุดสำหรับผู้ใช้ก็คือ ส่วนเสริมที่นักพัฒนาไม่ได้ตามอัพเดตให้ อาจจะใช้ไม่ได้ หรืออาจจะส่งผลให้ขั้นตอนการอัพเกรดใช้ไม่ได้เลยทีเดียว

สิ่งสำคัญขั้นแรกหากใครจะอัพเกรด NVDA 2019.2.1 (หรือเก่ากว่า) มาเป็น NVDA 2019.3 (หรือใหม่กว่า) ก็คือการทำให้มั่นใจก่อนว่าส่วนเสริมทั้งหมด ก่อนขั้นตอนการอัพเกรด สามารถทำงานร่วมกับ NVDA 2019.3 ได้ หรืออย่างน้อยก็ไม่ทำให้ขั้นตอนการอัพเกรดของเราผิดปกติไป

ในโพสต์นี้เราจึงจะแนะนำวิธีอัพเกรดในรูปแบบต่างๆ พร้อมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

อัพเกรดแบบไม่เก็บการตั้งค่าของเก่าใดๆ เลย

วิธีที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับการอัพเกรดก็คือ การเคลียการตั้งค่าเก่าๆ ของเราออกไปก่อนการอัพเกรด ข้อดีของวิธีนี้ก็คือ ขั้นตอนการอัพเกรดจะไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน แต่ข้อเสียก็คือ เราจะต้องมาตั้งค่าตัว NVDA ใหม่ทั้งหมด ซึ่งถ้าหลายคนปรับแต่งโปรแกรมไว้อย่างที่ชอบใช้แล้ว อาจรู้สึกว่าการต้องมาตั้งค่าใหม่เป็นการเสียเวลา ก็แนะนำให้เลือกวิธีอัพเกรดในรูปแบบอื่นแทน

โดยหากใครอยากอัพเกรดอย่างปลอดภัยสุดๆ ด้วยวิธีนี้ ท่านสามารถเข้าไปลบโฟลเดอร์ที่เก็บการตั้งค่าทั้งหมดของโปรแกรม NVDA ได้จาก "C:\Users(your user name)\AppData\Roaming\" โดยกด delete โฟลเดอร์ NVDA ออกไปเสีย แต่หากเรายังเปิดใช้งานโปรแกรม NVDA อยู่ เราจะยังลบโฟลเดอร์นี้ได้ไม่สมบูรณ์ วิธีก็คือ แนะนำว่าให้เปิดโฟลเดอร์ไว้สองที่ คือ 1. โฟลเดอร์ตำแหน่งที่จะกดลบ และ 2. โฟลเดอร์ตำแหน่งที่จะกดติดตั้ง NVDA เวอร์ชันใหม่ จากนั้นเมื่อพร้อมแล้ว ก็ให้สั่งปิดโปรแกรม NVDA ไป และเรียกใช้งาน Narrator ขึ้นมาแทน ในระหว่างขั้นตอนการลบโฟลเดอร์ NVDA และก็กลับไปกดติดตั้ง NVDA ตัวใหม่ (สามารถปิด Narrator ไปได้)

อัพเกรดแบบยังเก็บการตั้งค่าของเก่าไว้

หากใครไม่อยากมานั่งตั้งค่าอะไรต่างๆ ใน NVDA ใหม่หลังการอัพเกรด สิ่งที่ต้องทำก็คือ การเตรียมพร้อมก่อนการอัพเกรด เพื่อที่จะมั่นใจได้ว่าเราจะไม่พบปัญหาความเข้ากันไม่ได้ ของส่วนเสริม ระหว่างการอัพเกรด

Synthesizer เป็นตัวที่สำคัญที่สุด

ส่วนเสริมกลุ่มที่เป็นเสียงสังเคราะห์ หรือ Synthesizer เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยตรง จากการอัพเกรด NVDA 2019.3 รอบนี้ ดังนั้นอย่างแรกที่เราต้องตรวจสอบความเข้ากันได้ก็คือ เสียงต่างๆ ที่เราใช้งานกันอยู่ ตรงนี้หากใครยังใช้ SAPI5 อยู่ (เช่นใช้ร่วมกับตาทิพย์) สามารถยังใช้งานต่อไปได้โดยไม่ต้องอัพเกรดอะไร แต่สำหรับใครที่ใช้เสียงสังเคราะห์ตัวอื่นๆ เช่น Eloquence, Vocalizer ตรงนี้ต้องติดต่อผู้ขายเพื่อดาวน์โหลดส่วนเสริมเวอร์ชันที่สามารถใช้งานกับ NVDA 2019.3 มาเตรียมพร้อมไว้ก่อน ซึ่งหากใครใช้งานเสียงสังเคราะห์จาก Code Factory ตรงนี้ทางผู้ขาย ก็พัฒนาเวอร์ชันใหม่ออกมาให้ใช้งานกันได้แล้ว

คำแนะนำสำหรับใครที่ลงส่วนเสริมที่เป็นเสียงสังเคราะห์ต่างๆ ไว้ ก็คือ ลบส่วนเสริมเหล่านั้นก่อนจะอัพเกรด และใช้ eSpeak / SAPI5 / Windows One Core Voice ระหว่างการอัพเกรด

ตรวจสอบสถานะของส่วนเสริมที่เข้ากันได้กับ NVDA 2019.3

นอกจากเสียงสังเคราะห์ที่ได้รับผลกระทบเป็นหลักแล้ว ก็ยังมีส่วนเสริมอีกจำนวนนึง ที่หากนักพัฒนาไม่แก้ไขอัพเดตให้ เราก็จะใช้งานกับ NVDA 2019.3 ไม่ได้ หรือกรณีที่แย่กว่านั้น อาจทำให้ขั้นอตนการอัพเกรดมีปัญหา

ตัวอย่างที่ผู้เขียนเองเจอก็คือ ส่วนเสริม Speech History ที่เป็นปัญหาทำให้ระหว่างการอัพเกรด NVDA ไม่พูด และถึงจะพยายามอัพเกรดไปให้เสร็จก่อน (โดยใช้ Narrator ช่วย) เมื่อเปิด NVDA 2019.3 ขึ้นมาใช้งาน ก็ยังไม่สามารถใช้งานเสียงสังเคราะห์เสียงไหนๆ ได้อยู่ดี ตรงนี้อาจไม่พบบั๊กนี้กันทุกคนนะ เพราะอย่างเพื่อนของผู้เขียนก็ลงส่วนเสริมตัวนี้ไว้ แต่ก็สามารถอัพเกรดได้โดยไม่พบปัญหา

ดังนั้นเพื่อความชัวร์ เราควรลบ หรือปิดการทำงานของส่วนเสริมที่ยังเข้ากันไม่ได้กับ NVDA 2019.3 ไปก่อนที่จะอัพเกรด

รายชื่อส่วนเสริม ที่ยังไม่แก้ไขให้ใช้งานกับ NVDA 2019.3

รายชื่อส่วนเสริมเหล่านี้คือส่วนเสริมที่นักพัฒนายังไม่แก้ไขให้สามารถใช้งานกับ NVDA 2019.3 ได้ เป็นข้อมูล ณ วันที่เขียน คือ 18 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งหลังจากนี้ ก็เป็นไปได้ว่านักพัฒนาอาจจะมาแก้ไขให้สามารถใช้งานได้ ดังนั้นหากใครใช้ส่วนเสริมกลุ่มนี้กันอยู่ ก็ต้องติดตามอัพเดตกันว่านักพัฒนาจะกลับมาอัพเดตให้หรือไม่หรือเมื่อไหร่

คำแนะนำก่อนอัพเกรดคือ ถอนการติดตั้งส่วนเสริมกลุ่มนี้ทั้งหมด ก่อนการอัพเกรด เพราะถ้าเก็บไว้ หลังการอัพเกรดท่านก็จะใช้งานมันไม่ได้อยู่ดี

  • Addon to count elements of selected text
  • Crash Hero
  • Dual Voice
  • Image Describer
  • Newfon
  • OCR
  • Speak Passwords
  • Text Information
  • Tone Master
ส่วนเสริมที่จะไม่พัฒนาต่อ

มีส่วนเสริมอีกกลุ่มนึงที่จะไม่พัฒนาให้ใช้งานกับ NVDA 2019.3 ได้อีกเนื่องจากฟีเจอร์ของส่วนเสริมเหล่านี้ ถูกรวมเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของตัวโปรแกรม NVDA เองแล้ว เช่น Enhanced Aria และ Focus Highlight