ห่างหายกันไปถึง 2 vertion สำหรับโพสต์ "มีอะไรใหม่ใน NVDA..." นะครับ ส่วนนี้ทางทีมงานต้องขออภัย

สำหรับใน NVDA 2016.1 นี้ ฟีเจอร์ใหม่ที่เป็นตัวเด่น และคิดว่าคงมีประโยชน์พอสมควรสำหรับหลายคนคือ Audio ducking ครับ อธิบายง่ายๆ ก็คือ เป็นฟีเจอร์ที่ทำให้เสียงอื่นๆ (นอกจากเสียงของ NVDA) ถูกลดระดับความดังลง ทำให้เราฟังเสียงอ่านจาก NVDA ได้ชัดเจนขึ้นนั่นเอง แต่... ฟีเจอร์ใหม่นี้ จะทำงานได้กับผู้ที่ใช้ ระบบปฏิบัติการ Windows 8 ขึ้นไปนะครับ ใครยังใช้ Windows รุ่นที่เก่ากว่านั้น ก็ต้องขอแสดงความเสียใจด้วย ^_^

เคยใช่ไหมครับ เวลาเปิดไปเจอเว็บบางเว็บที่มีเสียงวิทยุหรือเสียงเพลงประกอบโน่นนี่นั่น ทำให้เราใช้งานคอมพิวเตอร์ต่อได้ลำบากมาก ถ้าหากไม่ปิดแทปนั้นไป หรือหาปุ่มปิดเสียงเพลงเหล่านั้นได้ ฟีเจอร์ Audio ducking จะเข้ามาช่วยเราแก้ปัญหาตรงจุดนี้แหละครับ เมื่อเราเลือกเปิด audio ducking mode แล้ว เสียงเพลงหรือเสียงอื่นๆ ก็จะเบาลง และทำให้เราได้ยิน NVDA อย่างชัดเจน และสามารถไปหาปุ่มปิดเสียงเหล่านั้น หรือทำงานต่อไปโดยมีเสียงเพลงคลอแบบไม่รบกวนเราได้

โดยเราสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ Audio ducking ได้สองวิธีครับ วิธีแรกคือการกดคีย์ลัดเพื่อสลับโหมดโดยตรง โดยใช้คำสั่ง NVDA+shift+D หรือเข้าไปเลือก Audio ducking mode ได้จากหน้าต่าง NVDA Synthesizer

Audio Ducking Mode นี้จะมีด้วยกัน 3 mode ได้แก่

  • No Ducking: โหมดนี้เท่ากับการปิดฟีเจอร์ Audio Ducking นั่นเอง โดยที่โปรแกรม NVDA จะเลือกเป็นโหมดนี้ไว้ให้มาเป็นค่ามาตรฐาน
  • Duck when outputting speech and sounds: โหมดนี้เสียงอื่นๆ จะเบาลงต่อเมื่อ NVDA อ่านออกเสียงอยู่เท่านั้น เหมือนเวลาเราฟังดีเจจัดรายการ แล้วเวลาดีเจพูดเสียงเพลงก็จะเบาลง พอดีเจหยุดพูด เสียงเพลงก็จะดังขึ้น แบบนั้นล่ะครับ
  • Always duck: โหมดนี้จะทำให้เสียงอื่นๆ เบากว่าเสียงของ NVDA อยู่ตลอดเวลาครับ ต่างจากโหมดก่อนหน้าคือแม้ว่าตอนที่ NVDA ไม่ได้อ่านออกเสียงอะไรอยู่ เสียงอื่นๆ ก็จะยังเบาอยู่ตลอดเวลานั่นเอง น่าจะเหมาะสำหรับการทำงานแล้วอยากมีเสียงเพลงคลอๆ ไปด้วย :D

หมายเหตุ: บางคนอาจจะสงสัยว่า คีย์ลัดสำหรับสลับ Audio Ducking Mode นี่มันซ้ำกับคีย์ลัดของส่วนเสริม Dropbox นี่นา... คำตอบคือ ถูกต้องแล้วครับ ดังนั้น ผู้พัฒนาส่วนเสริม Dropbox จึงได้เปลี่ยนคีย์ลัด ให้เป็น NVDA+alt+d แทน ในส่วนเสริม Dropbox 4.0

ส่วนการปรับปรุงหลักๆ ที่เหลือก็มีการปรับปรุงให้ใช้งาน NVDA ร่วมกับ Braille Display ได้ดีมากยิ่งขึ้น (ซึ่งส่วนนี้เนื่องจากผู้เขียนไม่มีความรู้ด้าน Braille Display เลย จึงจะขอข้ามไป) แล้วก็การปรับปรุงการใช้งาน NVDA ร่วมกับโปรแกรมชุด Microsoft Office ให้ดีขึ้นนะครับ ได้แก่

  • ในกล่องโต้ตอบองค์ประกอบรายการใน Microsoft Excel คีย์ลัดสำหรับสูตรได้ถูกเปลี่ยนเป็น Alt + R เพื่อให้แตกต่างกับคีย์ลัดสำหรับตัวกรอง
  • คำว่า "ข้อความ" จะไม่รายงานเมื่อย้ายโฟกัสไปยังแถบทบทวน หรื วัตถุที่เป็นข้อความอ
  • ใน Microsoft Word การติดตามการเปลี่ยนแปลงเช่น "แทรก" จะไม่รายงานเมื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงมาร์กอัปจะไม่ปรากฏ
  • ใน Microsoft Excel กด Shift + F11 เพื่อสร้างแผ่นใหม่ในขณะนี้NVDA จะรายงานตำแหน่งใหม่ของคุณแทนการไม่รายงานอะไรเลย

นอกจากนี้ก็ยังมีการปรับปรุงสำหรับโปรแกรมอื่นๆ อีก เช่น

  • การรายงานข้อความที่ถูกเน้น (emphasis) จะถูกปิดมาเป็นค่าเริ่มต้น
  • ใน iTunes 12 บนบราวส์โหมดจะอัพเดตข้อมูลอย่างถูกต้อง เมื่อมีการโหลดหน้าเว็บใหม่ใน iTunes Store
  • เมื่อโฟกัสอยู่ที่ปุ่ม (button) NVDA จะรายงานว่ากดหรือไม่ได้กด (press or not press)

การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงคร่าวๆ ก็มีประมาณนี้นะครับ (เฉพาะอันที่ผู้เขียนเห็นว่าสำคัญ และคนส่วนใหญ่น่าจะเห็นผล) ถ้าใครอยากอ่านการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแบบเต็มๆ ก็สามารถกดเข้าไปอ่านได้จากไฟล์ What's new ของ NVDA ใน NVDA menu -> help -> What's new นะครับ และถ้าใครยังไม่ได้อัพเดต NVDA ให้เป็นเวอร์ชัน 2016.1 เวอร์ชันล่าสุด ล่ะก็.... #รออะไรอยู่ อัพเดตสิครับ หรือจะเข้าไปดาวน์โหลดจากหน้า download ในเว็บนี้ก็ได้ :)